ศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่มนัดที่ 6 ประจำคืนวันพุธที่ 2 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา เป็นเกมในกลุ่มอี เอซี มิลาน เปิดสนาม “ซาน ซิโร่” ต้อนรับการมาเยือนของ เร้ดบูลล์ ซัลส์บวร์ก โดยก่อนแข่งเกมนี้ เจ้าบ้านมี 7 แต้มจาก 5 นัด ส่วนทีมเยือนมี 6 แต้มจาก 5 นัด โดยเงื่อนไขเดียวที่มิลานจะเข้ารอบในเกมนี้คือห้ามแพ้อย่างเด็ดขาด ส่วนทีมเยือนไม่มีทางต้องเอาชนะสถานเดียวเท่านั้น
ชิรูด์ ระเบิดฟอร์มเบิ้ล 2 เม็ด
เริ่มเกมมา 14 นาที เอซี มิลาน ได้เฮกันก่อนจากจังหวะเตะมุม แล้วเป็น ซานโดร โตนาลี่ บรรจงเปิดเข้ามายังจุดนัดพบเข้าหัวของเสือเฒ่า โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ โขกระยะ 7 หลาไม่พลาด และเป็นประตูเดียวที่เกิดขึ้นในครึ่งแรก เริ่มเกมครึ่งหลังมาได้แค่นาทีเดียว “ปีศาจแดงดำ” หนีห่างเป็น 2 – 0 จากการประสานงามของสามแนวรุก อันเต้ เรบิช เปิดบอลให้กับ ชิรูด์ ก่อนหัวหอกชาวฝรั่งเศสจะโขกต่อให้ ราเด้ ครูนิช โหม่งเข้าไปไม่พลาด เท่านั้นยังไม่พอนาที 57 เสือเฒ่าชิรูด์ แผลงฤทธิ์อีกครั้ง หลังซัดจ่อๆ เข้าไปไม่เหลือ ทำให้ตอนนี้ มิลาน การันตีเข้ารอบแบบ 100% จากนั้นในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 90+1 เจ้าบ้านมาได้ประตูปิดท้ายจากการยิงอันสุดสวยของ จูเนียร์ เมสซิอัส จบ 90 นาที เอซี มิลาน ถล่ม เร้ดบูลล์ ซัลส์บวร์ก ไป 4 – 0 ผ่านเข้ารอบน็อคเอ้าท์ยูซีแอลด้วยการเป็นอันดับสองของกลุ่ม ส่วน เร้ดบูลล์ ได้โควตาไปเล่นยูโรป้าลีก แทน
ชิรูด์ แมน ออฟ เดอะ แมทช์ เสือเฒ่ายังไม่ตาย
สำหรับสถิติในเกมนี้นั้น เอซี มิลาน กับ เร้ดบูลล์ ซัลส์บวร์ก ครองบอลเท่ากันที่ 50 – 50 มิลาน มีโอกาสจบสกอร์ทั้งหมด 15 ครั้ง ตรงกรอบ 7 ประตู ได้มา 4 ประตู ผ่านบอลสำเร็จทั้งหมด 305 ครั้งด้วยกัน โดย โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ที่ทำคนเดียว 2 ประตูในเกมนี้ได้คะแนนไปถึง 9.5 คะแนน คว้ารางวัลแมน ออฟ เดอะ แมทช์ ไปครอง ส่วนทางด้านทีมเยือน เร้ดบูลล์ ซัลส์บวร์ก ได้โอกาสพังประตูทั้งหมด 14 ครั้ง ตรงกรอบ 5 ครั้ง และมีโอกาสผ่านบอลสำเร็จทั้งหมด 342 ครั้งด้วย จากผลงานระดับ มาสเตอร์พีช ทำให้ เอซี มิลาน จบที่อันดับ 2ของกลุ่มอี มี 10 คะแนนจาก 6 นัด, ส่วนที่ 1 ตกเป็นของ เชลซี มี 13 คะแนนจาก 6 นัด ผ่านเข้ารอบน็อคเอ้าท์ทั้งคู่ ขณะที่อันดับที่ 3 เป็นของ เร้ดบูลล์ ซัลส์บวร์ก มี 6 คะแนนจาก 6 นัด ได้ไปเล่นยูโรป้าลีก, ส่วน ไดนาโม ซาเกร็บ อยู่อันดับที่ 4 มี 4 คะแนนจาก 6 นัด ตกรอบแรก
เครดิตโดย : ทางเข้า365